Search for:
  • Home/
  • Sports News/
  • สื่อแฉ อังกฤษไม่เหลืออาวุธพอที่จะส่งไปช่วยยูเครนแล้ว

สื่อแฉ อังกฤษไม่เหลืออาวุธพอที่จะส่งไปช่วยยูเครนแล้ว

สำนักข่าว “เดอะ ไทม์ส” (The Times) รายงานโดยอ้างข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ขณะนี้อังกฤษและหลายประเทศยุโรปตะวันตกกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างหลักประกันว่า ยูเครนจะยังมีอาวุธที่มากเพียงพอในการต่อสู้กับรัสเซีย หากสหรัฐฯ ซึ่งจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือน พ.ย นี้ ยกเลิก หรือ ลดความช่วยเหลือด้านการทหารที่มอบให้แก่ยูเครน

ความคืบหน้าแผ่นดินไหวญี่ปุ่น ยืนยันมีผู้เสียชีวิตแล้ว 13 ราย

 สื่อแฉ อังกฤษไม่เหลืออาวุธพอที่จะส่งไปช่วยยูเครนแล้ว

นัดเดียวจอด! จีนวิจัยอาวุธพลังงานจลน์ พบทำลายรถถังสหรัฐฯ ได้ในนัดเดียว

“เซเลนสกี” ส่งข้อความปีใหม่ รัสเซียจะได้เห็นความเกรี้ยวกราดของยูเครน คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวยอมรับว่าขณะนี้อังกฤษไม่มีอาวุธเหลือพอที่จะบริจาคให้ยูเครนได้อีก แต่จะยังคงทำหน้าที่โน้มน้าวให้ประเทศอื่นส่งความช่วยเหลือทางทหารให้แก่ยูเครนต่อไป

สำหรับอังกฤษเป็นประเทศที่ส่งมอบความช่วยเหลือให้แก่ยูเครนมากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากสหรัฐฯ โดยนับตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้นเมื่อเดือน ก.ย. 2022 อังกฤษได้ส่งยุทโธกรณ์ต่างๆให้แก่ยูเครนเป็นมูลค่า 4,600 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 200,000 ล้านบาท

ด้านประธานาธิบดีโวโลดีเมียร์ เซเลนสกี กล่าวในระหว่างการส่งสารวันขึ้นปีใหม่ โดยกล่าวย้ำคำมั่นว่าจะผลิตโดรนอย่างน้อยหนึ่งล้านลำในปี 2024 นี้ และ เชื่อว่าพันธมิตรชาติตะวันตกจะเริ่มส่งเครื่องบินรบ F-16 ให้ยูเครนภายในปีนี้เช่นกัน

ขณะเดียวกันเมื่อวานนี้ ( 1 ม.ค.) ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ได้เดินทางเยี่ยมทหารรัสเซียที่รักษาอาการบาดเจ็บในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งของกรุงมอสโก โดย ประธานาธิบดีปูตินระบุว่ากองทัพรัสเซียจะยกระดับการโจมตีเป้าหมายทางทหารในยูเครน หลังเกิดเหตุโจมตีเมืองเบลโกรอดอย่างหนักเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 24 คนและบาดเจ็บอีกมากกว่า 100 คน

ประธานาธิบดี ปูติน ระบุว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเมืองเบลโกรอด เป็น “การก่อการร้าย” โดยเป็นฝีมือของกองกำลังยูเครนที่ พุ่งเป้าโจมตีไปยังใจกลางเมือง ซึ่งเป็นการจงใจโจมตีเป้าหมายพลเรือน

นอกจากนี้ ประธานาธิบดี ปูติน ยังเชื่อว่าสงครามในยูเครนกำลังเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่รัสเซียเป็นฝ่ายได้เปรียบ ซึ่งรัฐบาลรัสเซียหวังว่าความขัดแย้งจะยุติลงได้ในที่สุด แต่ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่รัสเซียเป็นผู้กำหนดเอง