ประเทศจีนในเวลานี้ ต้องเผชิญกับความท้าทายอย่างหนักของสังคมผู้สูงอายุ อีกทั้งยังถูกซ้ำเติมจากปัญหาอัตราการเกิดที่ตกต่ำลงเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากเศรษฐกิจที่ยังคงฟื้นตัวได้ช้า ทำให้คนรุ่นใหม่ไม่ต้องการแต่งงาน หรือไม่ต้องการมีลูกเพราะกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงกับธุรกิจจัดงานแต่งงานที่พยายามฟื้นฟู แต่ก็ท้อถอยเพราะจำนวนคนที่จูงมือเข้าพิธีวิวาห์มีน้อยลงเรื่อย ๆคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

ฮ่องกงสืบสวนแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโท หลังนักลงทุนสูญเงินกว่า 6,000 ล้าน

คิม จองอึน พาลูกสาวออกงานอีกครั้ง ร่วมโต๊ะพบปะผู้บัญชาการทหาร

อิสราเอลส่งโดรนถล่มฉนวนกาซา ท่ามกลางเหตุประท้วงรุนแรง

หยวน เจียเหลียง ช่างภาพในวงการธุรกิจจัดงานแต่งงาน ผู้ทำงานในนครเซี่ยงไฮ้มานานกว่าสิบปี แต่ในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หยวนต้องเจอกับมรสุมขาลงของธุรกิจจัดงานแต่งงาน หลังมีจำนวนคู่รักที่แต่งงานทั่วประเทศจีนลดน้อยลงมาก อีกทั้งขนาดของการจัดงานแต่งก็เล็กลงเรื่อย ๆ

โดยก่อนหน้านี้ ไม่ว่ารูปแบบของงานหรือขนาดของงานแต่งจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร แต่ก็ยังคงมีคู่รักที่ตัดสินใจจัดงานแต่ง พร้อมใช้บริการธุรกิจดังกล่าวอยู่ดี ซึ่งในเวลานี้ หยวนบอกว่าเขาเริ่มรู้สึกถอดใจกับขาลงของธุรกิจดังกล่าวแล้ว และอยากไปประกอบอาชีพอื่นแทน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ตนเคยมีความหวังว่าธุรกิจเจ้าใหญ่อื่น ๆ จะมีจุดสูงสุดของธุรกิจ แต่ ณ เวลานี้ หยวนกังวลมากกว่าจะมองในแง่ดีแล้ว

ทั้งนี้ หยวนและคนอื่นๆ ในวงการธุรกิจจัดงานแต่งงาน ซึ่งมีมูลค่ารวมกันประมาณ 3.6 ล้านล้านหยวน ตามการประเมินโดยบริษัทที่ปรึกษา ต้าสือ ในปี 2020 ซึ่งมีการวิจารณ์แนวโน้มการแต่งงานในจีน ของคนที่ต้องทำมาหากินและเลี้ยงดูตัวเองได้ จะมีจำนวนลดลงในระยะยาว ซึ่งทำให้นักประชากรศาสตร์และนักวิจัยด้านพฤติกรรมของผู้บริโภคออกมาแสดงความกังวลต่อแนวโน้มนี้

นอกจากตัวเลขของจำนวนคู่รักที่จดทะเบียนแต่งงานลดลงแล้ว ยังส่งผลให้ตัวเลขของเด็กเกิดใหม่ลดลงตามไปด้วย ขณะที่ในหลายเมืองก็ปฏิเสธที่จะรับเลี้ยงดูเด็ก หรือไม่มอบเงินค่าอุดหนุนดูแลเด็กแก่ผู้หญิงที่ยังไม่แต่งงานแต่มีลูก เนื่องจากว่าหลายพื้นที่ยังไม่ให้การยอมรับผู้หญิงที่มีลูกโดยไม่ผ่านพิธีแต่งงาน

นอกจากนี้ หลังจากที่จีนผ่านพ้นช่วงวิกฤตของการแพร่ระบาดจากโควิด-19 และผ่านมาตรการควบคุมอย่างเข้มงวด หลังจากที่จีนเปิดประเทศ หลายฝ่ายคาดหวังว่าจะได้เห็นเศรษฐกิจของจีนกลับมาสดใสและคึกคักอีกครั้ง แต่อย่างไรก็ตาม กลับกลายเป็นว่าในเวลานี้ เศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัวได้ค่อนข้างช้า ทำให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคถดถอยลงเรื่อย ๆ

ซึ่งสิ่งนี้ ส่งผลกระทบไปยังคู่รักหนุ่มสาวที่วางแผนจะแต่งงาน หรือมีลูก ประกอบกับในเวลานี้ จีนกำลังเผชิญกับความท้าทายของจำนวนประชากรผู้สูงอายุที่นับได้ว่ามีมากที่สุดในโลก

โดยในปี 2022 มีคู่รักที่จูงมือแต่งงานทั่วประเทศประมาณ 6,800,000 คู่ ซึ่งน้อยกว่าปี 2021 ที่มีอยู่ 7,600,000 คู่ ซึ่งในปี 2022 นั้นเป็นจำนวนที่ต่ำที่สุด นับตั้งแต่มีการเริ่มบันทึกข้อมูลมาตั้งแต่ปี 1986 โดยรัฐบาลจีน ส่งผลต่อรายได้ของผู้ให้บริการรับจัดงานแต่งงาน ช่างตัดหรือออกแบบชุดแต่งงาน ช่างจัดดอกไม้ และช่างภาพ

อย่างไรก็ตาม ยังคงมีคู่รักในจีนที่ตัดสินใจแต่งงานกันอยู่ ซึ่งแท้จริงแล้ว งานแต่งดังกล่าวจะต้องถูกจัดขึ้นเมื่อปี2022 แต่ส่วนใหญ่ต้องเลื่อนออกไป เนื่องจากมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 จึงทำให้ปีนี้ ตารางของบางบริษัทแน่นขนัดเป็นอย่างมาก หนึ่งในนั้นคือ เจเวล หวัง เจ้าของธุรกิจชุดแต่งงานที่มีสาขาหลายแห่งทั่วประเทศจีน โดย หวัง กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า โควิด-19 สร้างผลกระทบต่อชีวิตผู้คนครั้งใหญ่ ธุรกิจหลายเจ้าเจอขาลง แต่ธุรกิจของตนได้ยึดมั่นในตลาดเฉพาะกลุ่มหรือ Niche Market

หวัง เสริมว่า ตั้งแต่เริ่มต้นปีนี้ มาจนถึงเดือนมิถุนายน เป็นช่วงที่บริษัทคึกคักมากที่สุด เพราะยอดความต้องการชุดแต่งงานจากแบรนด์หรู เช่น Vera Wang, Oscar de la Renta และ Carolina Herrera มีเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ซึ่งตนก็หวังว่าธุรกิจจะมียอดที่คึกคักขึ้นไปเรื่อย ๆ จนถึงปี 2024

ด้าน เบนจามิน คาเวนเดอร์ กรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ของกลุ่มบริษัทวิจัยด้านการตลาดของจีน ระบุว่า มีเพียงการฟื้นฟูเศรษฐกิจจีนให้แข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น ที่จะสามารถช่วยชะลอแนวโน้มการแต่งงานที่ลดลงได้ เพราะตนคิดว่า ในความเป็นจริง มีหนุ่มสาวหลายคนในจีนที่รู้สึกว่าการเลี้ยงดูลูก จะนำมาซึ่งค่าใช้จ่ายที่สูงมากนั่นเอง